---
layout: post
title: 'Sony Clie PEG-TH55: first take'
created: 1114376382
categories:
- palm
- review
---
Sony Clie PEG-TH55 -- สวย หรูหรา สง่า กับการใช้งานจริง??(update: 13 May 2005)
เรื่องของเรื่องก็คือ ได้ TH55 มานั่นแหละครับ ฮ่าๆ รุ่นที่เรียกได้ว่า palm ที่มีสีสันที่สุด เด่นที่สุดในเรื่องการออกแบบ เด่นที่สุดเพราะว่าตัวสุดท้ายของ Sony กับ Clie (55 VZ-90 ไม่เกี่ยวครับ หึหึ) เด่นที่สุดกับ Clie Organizer ที่หลายๆคนอยากใช้เนื่องจากทั้งสวย ทั้งน่ารัก แถมดึงความสัมพันธ์ระหว่างชุด PIM ต่างๆ เข้ากับ note ได้หมดเลย อืม... นั่นแหละครับ ที่พูดมาก็เพราะคิดอย่างนี้เหมือนหลายๆคน และในที่สุดก็ได้เจอตัวจริง.. 555 บอกได้คำเดียวว่า "ไม่อยากวางมันลงเลยหล่ะครับ"
Model Name
PEG-TH55
OS
Palm OS 5 (ver. 5.2) English
CPU
Sony Handheld Engine™
Memory (RAM)
32MB (User area 32MB)
Memory (ROM)
32MB
Interface
• USB for HotSync Interface (18 pin) • IrDA(1.2) • Memory Stick slot*1 • Wireless LAN (IEEE 802.11b)
Display
TFT colour display with Back Light, 480 x 320 dots, 65,536 colours
Others
• Monaural speaker • Monaural microphone • Headphone stereo minijack • Jog Dial & Right/Left buttons • BACK button • REC LED • WLAN LED • Power LED • Memory Stick LED
Power Requirements
DC 5.2V (with supplied AC adapter), 3.7V (with battery)
Battery System
Lithium-ion polymer
Battery Life*2
Approx. 15 days*3/ 9 days*4
Dimensions (W x H x D)
Approx. 73.3 x 121.5 x 15.7 (13.4)mm (Excluding hardcover)
Weight (including stylus)
Approx. 185 (165)*5g
Packaged Content
• CLIÉ handheld • USB cable • Retractable stylus • AC adapter • AC cord • Plug adapter • Hand strap • Installation CD-ROM • Operating Instructions • Internet Connection Guide • Safety & Regulation Guide • Graffiti2 card • End User License Agreement • Registration notice • In-carton magazine
เอาเป็นว่าที่เด่นๆ ก็ CPU ของมันหน่ะครับ ..ที่ไม่บอกความเร็ว.. แต่รู้สึกว่าจะเปลี่ยนไปตาม application ที่ใช้ ฮ่าๆ แล้วก็ทำได้ดีด้วยซิครับ เลยกลายเป็นจุดเด่นนึงที่เรียกว่า แบตอึดมากๆครับ เป็นสิ่งที่ palm ใหม่ๆขาดหายไป แต่เจ้านี่ทำได้ 55 อย่างอื่นก็คงเป็น wifi, จอย๊าวยาว.... แล้วก็มีกล้องด้วยซิ อืมม นั่นแหละครับ spec ของมัน ดูดีทีเดียว แม้มันจะขาด bluetooth ไป...ก็เถอะ (มีแต่ในยุโรปให้คนที่อื่นเคืองเล่นทำไมเนี่ย -_-")
Design & Material
ว่าด้วยเรื่องการออกแบบของ TH55 คงไม่มีใครกล้าจะบอกว่าไม่สวยละมั้งครับ วัสดุที่ใช้ก็ ฮ่าๆ งามทั้งรูปลักษณ์ และก็สมกับค่าตัวหล่ะครับ เดาๆว่าน่าจะใช้อลูมิเนียมสำหรับโครงทั้งหมดและก็เคลือบด้วยสีดำด้าน+สากๆ คงทำให้เกิดรอยขึ้นยากมากหล่ะครับ ด้านบนก็มีที่ใส่สายคล้องข้อมือไว้กันหลุดหล่ะครับ อืม เป็นการออกแบบสำหรับ clie ทุกรุ่นเหมือนๆกันจริงๆ ส่วนตามแผ่นหลัง ก็จะมีปุ่มๆที่กล้องเพื่อกันไม่ให้พื้นมาทำให้เป็นรอยมากหน่ะครับ เรียกว่าออกแบบได้ค่อนข้างละเอียดทีเดียวการวางของ TH55 ก็เลยค่อนข้างปลอดภัยระดับนึงหน่ะครับ แต่ทางทีดี 55 พยายามมีอะไรรองจะดีมาก หึหึ อ้อ อีกอย่างลำโพงมันดันอยู่ข้างหลังนี่ซิครับ ฮ่าๆ สงสัยจะเพราะว่าด้านหน้าไม่มีทีให้วางแล้วจริงๆ หรือถ้ามีวางก็ต้องใช้ buzzer แทนแน่เลย อย่างน้อยก็เล็กกว่า แต่กลัวเสียงไม่ดีเสียชื่อ sony หมดเลยวางไว้หลังซะเลย แต่ผมว่ามันก็เสียงดังใช้ได้นะครับ ไม่เหมือนเครื่องของ palmOne บางรุ่น หึหึ แทบไม่ได้ยินเสียงเลย
ส่วนที่ปิดหน้าจอที่เค้าเรียกว่า hardcover ก็เป็น acrylic ใสสีเทาๆ ช่วยปิดกั้นหน้าจอจากการกระแทก แต่อันนี้ซิครับ ฮ่าๆ เกิดรอยง่ายเป็นบ้าเลยหล่ะครับ กะแค่คราบมันของมือก็ไม่รู้จะจัดการไงแล้วหล่ะครับ
เรื่องการวางปุ่ม: เรียกว่าเป็นเครื่องที่แปลกมากที่มีการวาง Jog Dial รวมทั้งปุ่ม back ไว้ข้างหลังซะงั้น! ปุ่มทั้ง 4 ปุ่มมาตรฐาน (ที่ไม่ค่อยใช้แบบปกติเท่าไหร่สำหรับ default ของ TH55) ก็วางซะล่างสุด ขอบเครื่องเลยทีเดียว คงเป็นเพราะ acrylic ที่ปิดหน้าจอทับจนหมดเลยกลัวจะกดไม่ได้มากกว่า และปุ่ม power+hole ปิดเปิดหน้ากล้อง รวมทั้งปุ่ม shutter ก็อยู่ริมซ้ายของตัวเครื่องทั้งหมด ซึ่งออกแบบอย่างนี้ทำให้การจับค่อนข้างจะไม่เหมือนชาวบ้านจริงๆครับ ไว้ค่อยไปคุยกันอีกทีในหัวข้อการใช้งานจริง~ ฮ่าๆ
ความเนี๊ยบของ TH55 ยังไม่หมดเพียงเท่านี้ ... มาดูที่ memory stick slot กัน เรียกได้ว่าออกแบบไว้เรียบร้อยมากๆ ถึงแม้จะดูลึกลับแต่ก็เปิดออกมาทั้งใส่และถอด memory stick ได้สะดวกทีเดียวครับ
Infrared ก็ยังอยู่ในตำแหน่งบนๆ แต่อยู่มุมบนขวา แต่ก็ไม่ได้ทำให้ต้องทำท่าประหลาดเวลา beam แต่อย่างใด ฮ่าๆ ส่วนปุ่ม reset นี่อยู่ซะด้านล่างติด connector เลย เวลาจิ้มต้องเล็งให้ดีๆ ถึงจะ reset ได้ ซึ่งจริงๆแล้วก็น่าจะเป็นการช่วยป้องกันไม่ให้พลาดไปโดนมันง่ายมั้งครับ (55 โคตรเข้าข้างเลยแฮะเรา)
อืม ส่วนนี้เป็นส่วนที่ผมไม่ชอบเลยแฮะ เพราะว่าทั้ง sync ทั้ง charge ต้องเพิ่งเจ้าตัวเล็กๆตัวนี้ทั้งหมด เหอ-เหอ ทำแยกกันหน่อยน่าจะดีกว่านี้มากหน่ะครับ ไม่งั้นก็ทำ cradle จะไม่บ่นเลยซักคำ อิอิ แล้วก็หมดสำหรับรูปลักษณ์ภายนอกครับ
All about built-in Software
เรื่องนี้จะพูดแค่หลักๆ คือ Clie Organizer จะให้มาพูดไล่ทีละตัวมันก็ยังไงไม่รู้ ลองเข้าโปรแกรมแล้วจิ้มๆดู ก็น่าจะพอเข้าใจครับ ฮ่าๆ จะมาพูดกันจริงๆ ก็ต้องมาดูตั้งแต่ palmOS ของ TH55 ได้ทำการแบ่งส่วน memory ไว้ดังนี้ครับ
Storage Heap: เป็นทั้ง 32 MB เต็มๆ ไม่เหมือนชาวบ้าน (palmOne ที่จะมาแบ่งในส่วน RAM อีกทีหน่ะครับ)
Dynamic Heap: 7.168 MB อันนี้..เอามาจากไหนหว่า ไม่ทราบได้ครับ ฮ่า ถ้าเอามาจาก ROM ก็น่าจะมีปัญหาภายหลัง ซึ่งจริงๆแล้วก็ไม่ควรอยู่แล้วหน่ะครับ แต่จะเอาจาก RAM?? ซึ่งเป็น storage heap ทั้งหมดก็งงครับ 555 แต่จากที่เห็นก็สรุปได้ว่า spec ไม่เป็นรองใครหล่ะครับ dynamic heap ขนาดนี้ก็แพ้แค่ t|t3 เท่านั้นหล่ะครับ (จริงๆแล้ว clie เกือบทุกตัวก็มี dynamic heap ค่อนข้างเยอะหน่ะครับ ซึ่งผมว่าเป็นการกำหนดค่าที่ดีทีเดียวครับ)
อืม ... จาก OS เรามาดูอีกเรื่องนึงก่อนที่จะเข้าเรื่องสำคัญครับ คือ Launcher ครับ ตัว TH55 นี่สรุปแล้วก็มีถึง 3 ตัวด้วยครับครับ (นี่ยังไม่ได้ลงอะไรเพิ่มนะครับ 55)
ตามรูปจะเห็นได้ว่าเหมือน palm launcher ทั่วๆไป (ก็ตอนแรกก็เอ palm launcher ตัวใหม่เหรอเนี่ย 55) แต่ก็นั่นแหละครับ สิ่งที่แตกต่างคือ 8 shortcut ด้านล่างและจุดสำคัญของ clie organizer ซึ่งก็คือ แถบด้านขวามือหน่ะครับ โปรแกรมทั้งหมดที่มีเอี่ยวกะ launcher ตัวนี้ 55 โดยที่การจะเปลี่ยนโปรแกมทำได้ 2 วิธีครับ คือกด back แล้วเลื่อน jog ขึ้น-ลง จะทำให้เปลี่ยนโปรแกรมได้ และอีกวิธีคือปุ่ม 4 ปุ่มมาตรฐานหน่ะครับ ปุ่มที่ 3 นับจากขวาเป็นการเปลี่ยนโปรแกรมในนี้ครับ (อืม..ผมว่าตรงนี้ทำให้เสียปุ่มไปฟรีๆ 1 ปุ่มครับ ผมว่าเค้าออกแบบการใช้งานแย่ครับ)
มาดูกันที่ application ตัวนี้ ไม่ได้มีดีอะไรเล้ยย แค่ทำให้เข้าโปรแกรมได้ ดูง่ายสไตล์ palm แต่การใช้งานแล้ว... ขอบอกว่า ขาดไปมากๆครับ คือ สวยแต่รูปจูปไม่หอมสุดๆ อย่างแรกคือกะแค่เขียนตัว T อยากเพื่ออยากจะไปที่ tealscript ก็นะ ทำไม่ได้ครับ พี่แกไม่ไปด้วยครับ (แหะๆนึกว่าเอ ปกติเค้าไม่ได้กันเหรอเนี่ย เลยออกไปที่ palm launcher ในเครื่องก็ใช้ได้นะครับ) แล้วก็ menu ทั้งหมด ไม่เหมือน palm launcher เลยครับ เลยทำอะไรไม่ได้แม้แต่ลบครับ.. คงได้แต่เพียงทำเป็น icon เล็ก ซึ่งผมไม่คิดจะใช้เพราะเหอๆ ไม่อยากเพ่งแฮะ
ส่วนเรื่องการควบคุม: ถ้าคิดจะใช้ jog dial แทบตายแน่นอนครับ เพราะ jog จะเป็นการเลื่อนไปทางขวาแล้วค่อยเลื่อนบรรทัดๆไปเรื่อยๆครับ (แทนที่มันจะเลื่อนลงอย่างใน palm laucher) jog ซ้าย-ขวา เป็นการเปลี่ยนหน้า ดูเหมือนจะดี แต่ด้วยการใช้งานแบบไม่มี stylus บอกได้คำเดียวว่าเหนื่อยครับ -_-'
Datebook
Flash เกี่ยวกับ Clie Organizer #1 #2
อืม มาดูในโปรแกรมชูโรงครับ ผมว่าตัวนี้ทำได้สวยมากๆน่าใช้มากๆครับ สามารถเขียนได้บนทุกที่ ไม่ว่าจะหน้า day view, week view หรือแม้กระทั่ง month view ก็เขียนได้ครับ ผมว่าอันนี้เป็นการออกแบบที่ทำให้สะดวกทีเดียวครับ อย่างน้อยก็เขียน short note ได้เร็วสุดๆหน่ะครับ แถมเพิ่มความสวยงามได้ด้วย sticker ต่างๆ ทั้งเล็กและใหญ่ ใส่ freenote, รูปอะไรก็ได้ลากไปมาได้ตามสะดวกเลยหน่ะครับ อืมม อุดมคติมากๆครับ และทุกหน้าของ datebook ก็สามารถดู todo ได้หมดครับ จึงเป็นเหตุนึงที่ทำให้ agenda view ของ clie organizer หายไป.. โดยรวมแล้วผมว่าเจ๋งมากครับ
อ้อ..และอีกอย่างที่กลับมา..เอ น่าจะบอกว่าไม่ได้ขาดหายไปจาก datebook รุ่นดั้งเดิม (ซึ่งในชุด PIM ใหม่ได้หายไปหมดแล้ว) ก็คือการ drag-and-drop event ครับ มันเจ๋งมากๆๆจริงๆครับ สะดวกสุดๆ แต่ทำได้แค่ในหน้า day view นะครับ ซึ่งดั้งเดิมแล้วจะทำได้ในหน้า week view หน่ะครับ
สุดท้ายสำหรับ datebook ก็คือผมว่าการใช้งานแบบ sticker ปากกา หรืออะไรก็แล้วแต่หน่ะครับ น่าจะทำมาเพื่อใช้ short note เท่านั้นหน่ะครับ เราสามารถลบมันออกได้ทั้งหมดทาง menu เลยนะครับ เพราะข้อเสียของมันก็คือมันจะทำให้ช้าลงเวลาเปิดแต่ละหน้าหน่ะครับ เพราะต้องการเวลาในการวาดเส้นต่างๆ และลงรูปหรือ note ที่เราใส่ไว้หน่ะครับ ซึ่งผมว่าจริงๆแล้วอย่าง notepad ใน palm เนี่ย มีขนาดค่อนข้างใหญ่มาก แต่กับ clie organizer แล้ว ผมลองวาดอยู่ประมาณ 20 วัน ขีดๆเขียนๆ ไม่มากไม่น้อย กลับไม่พบความเปลี่ยนแปลงของพื้นที่ที่ใช้เลย อืม.. ถือเป็นเรื่องที่ทำได้ดีทีเดียวครับ เพราะแสดงว่าเค้าไม่ได้เก็บข้อมูลเป็นรูป! อย่าง notepad แต่กลับเก็บเป็นข้อมูลจุดแล้วค่อยๆมา plot ซึ่งจะทำให้ช้าเวลาเปิดแต่ก็ประหยัดพื้นที่ไปได้เยอะ(คือประมาณอันละ 1-2kB เท่านั้น) อันนี้ต้องยกเครดิตให้คนคิดมากกว่าที่จะมาว่าๆมันช้าเลยหล่ะครับ 55 แล้วก็ยังไม่หมดครับ เรื่องนี้ผมว่าเป็นข้อเสียดีกว่า มันคือการเพิ่ม event ทำได้ลำบากกว่า palm แท้ๆ ครับ คือต้องจิ้มที่เวลา หรือกดที่ new ไม่สามารถเขียนเลขของเวลาแล้วเขียนรายละเอียดต่อได้เลยได้ครับ
Address
ในส่วนนี้ผมว่าก็ไม่ได้วิเศษวิโศอะไรมากมาย คงมีดีแค่ใส่รูปได้หน่ะครับ ซึ่งดูได้ด้วยแฮะ ในหน้ารวม ทุกวันนี้ agendus ใหม่ๆก็ทำได้หน่ะครับ แต่เพียงให้รู้ไว้ว่า TH55 ไม่ได้ต้องการโปรแกรมอะไรมาเสริมความหรูหราในส่วนนี้อีกเลย 555 แต่สิ่งที่ขาดไปคือการ tap-to-connect อันนี้จะว่าขาดก็แปลกๆครับ เพราะก็ไม่มี bluetooth อยู่ดี จะใช้ทีต้องเอามาจอกับโทรศัพท์ก็คงแปลกๆ ถ้าเป็นรุ่น europe แล้วขนาด function นี้ไปคงหงุดหงิดได้ทีเดียวหน่ะครับ จริงๆแล้วผมว่าก็น่าจะใส่ library เองได้ แต่ที่ไม่ได้ลองก็อย่างว่าหล่ะครับ ลองไปก็นะ ไม่ได้ใช้อยู่ดีครับ 55 ส่วนเรื่องรูปนี่มันจะย่อขนาดให้เองทั้งหมดนะครับ จะตกประมาณรูปละ 10-15kB หน่ะครับ ถือว่า ok ทีเดียวครับ อ้ออีกอย่างครับ มี custom field อยู่ 4 ช่องนะครับ ตามสไตล์ชุด PIM เดิมๆครับ
Todo
จริงๆแล้วก็ไม่ได้คาดหวังอะไรกับมันมากหรอกครับ ก็ไม่คิดว่าจะมีอะไร ก็แค่ todo ธรรมดา แต่..พอลงแล้ว 555 อืม ไม่ธรรมดาจริงๆครับ ถ้าใครเคยใช้ bonsai จะเข้าใจอย่างรวดเร็วว่า todo ตัวนี้มันมีดีกว่าที่ตรงไหน 55 มันก็ยังไม่ถึงขั้น bonsai ที่มีบอกว่ากี่ % completed แต่เจ้านี้ก็ทำเป็นย่อยๆได้ อืม.. ผมว่าแค่ง่ายๆแค่เนี่ย ก็ทำให้ todo มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นมากเลยครับ ไม่ต้องเอารายละเอียดใส่ note แถมดูก็ง่ายกว่ามากครับ เหมาะ การใช้งานก็ง่ายแค่เลือกตรงขวาล่างหน่ะครับ เป็นการเลื่อนขึ้นหรือลง หรือเป็น tab ไว้ทำอันย่อย ซึ่งตัวด้านบนจะเป็นตัวหลักให้อัตโนมัติครับ ถ้าเลย due date ก็จะเป็นสีแดง แถม todo ตัวนี้ยังเก็บข้อมูลวันที่ completed ด้วยนะครับ ไม่ใช่ว่าจะเก็บแค่ เอาละ เสร็จละ 555 อยากให้มันมีกับ palmOne ด้วยเลยหล่ะครับ ตัวนี้ เพราะไม่ได้มีอะไรพิเศษมากมาย แต่กลับใช้ได้แบบมีประสิทธิภาพสูงสุด ^_^
FreeNote
มาถึงตัวสุดท้ายแล้วที่จะพูดถึงในส่วนของโปรแกรมครับ ตัวที่ทรงประสิทธิภาพอีกตัว อย่างในรูปตัวนี้มีขนาดประมาณ 22kB เนื่องจากมีทั้งรูปมีทั้ง txt มีทั้ง sticker อืม ...แต่ถ้าเขียนอย่างเดียวขนาดก็จะประมาณ 10-20kB แล้วแต่จะใช้แค่ไหน ซึ่งถ้าเป็นอย่าง notepad ของ palm จะใช้พื้นที่ประมาณตัวละ 3kB แม้จะน้อยกว่ามากแต่ความละเอียด และความหลากหลายในการใช้งานก็น้อยกว่ามากครับ แต่ก็จะเหมือนกับ datebook ซึ่งเวลาเปิดก็จะใช้เวลาซักหน่อย แต่ผมว่าคุ้มครับ 555 แค่เปลี่ยนสีได้ การลากเส้นค่อนข้างเป็นไปตามใจเรา มากกว่า notepad ทำให้รู้สึกใกล้กับการเขียนในกระดาษขึ้นกว่าเดิมพอสมควรเลยหล่ะครับ ^_^
Clie Organizer for PC
ก็จะเหมือนกับของใน TH55 ทุกอย่างหล่ะครับ สามารถเขียนอะไรได้ sync ได้.. ลาก emotion มาใช้ได้เลยครับ เป็นส่วนเติมเต็มได้อย่างดีครับ แต่ปัญหาจะอยู่สำหรับคนที่มี palm มากกว่า 1 เครื่อง หรือมีพี่น้องใช้ palm ด้วยหน่ะครับ เพราะว่า conduit ของ datebook, address, todo, memo pad จะถูกเปลี่ยนไปเป็น clie organizer ทั้งหมดเลยครับ ทำให้เกิดปัญหาที่ว่า.. palm desktop งงครับ.. sync แล้วสับสนกันซะงั้นครับ ซึ่งแนะนำว่าถ้าใช้เครื่องอื่นด้วยนั้น ฮ่าๆ พยายามใช้ palm desktop ดีกว่า แล้วส่วนความสวยงามก็จัดการใน palm เองหน่ะครับ จะทำให้ไม่สับสนได้ครับ
ส่วนเรื่องภาษาไทยก็แก้ได้ตามรูปครับ
ปล. Arial ทั้งตระกูลมีอยู่ 11 ตัวนะครับ ต้องเอาออกให้หมดนะครับ... ^_^
อืม จริงๆแล้วเจ้า case ตัวนี้ถ้าเกี่ยวกับเข็มขัดก็คงคล่องตัวดีมั้งครับ แต่ผมไม่ชอบเหน็บไว้นี่ซิปัญหา 555 คิดเล่นๆเอาไปเทียบกับตอนใช้ palmOne อย่าง t|t3 แค่แผ่นปิดตัวเดียวก็พอแล้วหน่ะครับ ไม่ใช่ว่ารักษาน้อยกว่า แต่ว่า.. hardcover หรือเจ้าแผ่น acrylic ของ th55 เนี่ย ทำให้ต้องดูแลมันมากไปหน่ะครับ ผมว่านะ จะปล่อยให้มันเป็นรอยก็กระไรอยู่ อิอิ
วิธีจับ?? อันนี้หล่ะครับ เป็นสิ่งที่ไม่ค่อยจะทำให้รู้สึกดีกับ th55 เลยครับ ไอ้ตอนอยู่ในบ้านก็ ok หล่ะครับ แต่พอออกนอกบ้านมันทำให้ต้องระวังมากขึ้นแถมเป็น palm ตัวแรกที่ผมจับ แล้ว..ไม่สามารถใช้มือเดียวควบคุมมันไว้ได้หน่ะครับ มาลองดูรูปกัน
อืม อันนี้เป็นการจับที่ผมว่าดีที่สุดในการควบคุมครับ เพราะยังไงคนถนัดขวาก็ต้องจับ stylus มือขวาอยู่แล้ว มือซ้ายเลยต้องทำงี้เพื่อให้ควบคุมปุ่ม Jog Dial ได้ทั้งหมด รวมทั้งกด shutter หรือเปิดหน้ากล้องก็ทำได้ด้วยนิ้วชี้และนิ้วโป้ง (55 นิ้วกลางอาจจะมาช่วยในการกด back เวลานิ้วชี้เมื่อยๆหน่ะครับ) แต่อย่างว่าหล่ะครับ ไม่มีปุ่มไหนในมือซ้ายในกรณีที่วางอย่างนี้ แล้วจะสามารถเปิดเครื่องได้เลยย... -_-' อะไรกันเนี่ยยย คือ ไม่สามารถใช้มือเดียวจัดการได้จริงๆครับ โดยปุ่มที่เปิดได้ก็จะมี เพิ่ง 3 ปุ่มมาตรฐาน (ส่วนอีกปุ่มก็ปุ่มขวาสุดหล่ะครับ ค่อยมาดูกันว่ามันคืออะไร??) และก็ปุ่ม power ซึ่งไม่น่าใช้เอาซะเลย เพราะทั้งกลัวพังและ ถ้าดูดีๆนะครับ มือซ้ายจะบังมันทั้งหมดครับ ทำให้ถ้าจะเปิดก็เหอ-เหอ จินตนาการลำบากนิดนึงครับ อืม สรุปแล้วก็ต้องมากดจนได้ครับ ใช้มือขวามากด แต่อยากจะบ่นๆมากๆครับ ปุ่มที่ออกแบบมาอย่างนี้ไม่ได้เหมาะกับการใช้งานเล้ย แค่ท่ากดก็ลำบากแล้วครับ
อย่างในรูปหล่ะครับ ลองจินตนาการเดินๆอยู่แล้วต้องมาจิ้มอย่างนี้นะครับ ทั้งๆที่ผมว่าปุ่ม 4 ปุ่มนี้ถ้ามันอยู่บน Jog Dial หรือข้างหลังเครื่องเหมือนกันไปเลยดีกว่า อย่างน้อยก็มีนิ้วชี้+นิ้วกลางช่วยกันกดสะดวกกว่าแน่ๆ แถมอาจจะไม่ต้องเปิด hardcover แล้วใช้งานจากปุ่มทั้งหมดก็เป็นได้นะครับ แต่...ความเป็นจริงแล้ว มันไม่ใช่ -_-' ยิ่งจอแนวนอนแล้วละก็.. 555 เลิกคิดเลยครับ เรื่องการควบคุม คงได้เพียงจิ้มด้วย stylus เท่านั้นแถมมือขวาก็จะไปชนกับ hardcover อีกครับ แต่ถ้าพลิกจอกลับไปอีกด้านนึงก็ถือว่า ok ระดับนึงครับ (แค่เรื่องจิ้ม stylus นะครับ 55) พอใช้งานไปก็พาลให้คิดไปถึง palmOne เลยหล่ะครับ แม้การออกแบบดูจะไม่ค่อยหวือหวาอะไรแต่ยังไม่เคยเห็นรุ่นไหนเลยครับ ที่เป็นการออกแบบเพื่อความลำบากในการใช้งาน... ผมว่านี่ละมั้งครับ คงเป็นเหตุผลที่การออกแบบของ palmOne ไม่ค่อยจะมีอะไร เพราะรูปแบบที่เหมาะที่สุดก็คงจะมีไม่มากอยู่แล้วครับ ก็มันเหมาะที่สุดแล้วจะให้ออกแบบอะไรหล่ะ 55 (แต่ขอร้องเถอะ อย่าเป็นแบบ t|e series อีกเลย 55 เสียความรู้สึกนิดนึงแบบนี้ อิอิ)
อืม นี่แหละครับ ตัวอย่าง มือเดียวอยู่ นิ้วเดียวคุมได้หมดจริงๆครับ ถ้าจะอัดก็เปลี่ยนนิ้วโป้งไปอยู่ข้างๆแทน อืมม ดูแล้วดูอีกถ้าเรื่องการใช้งานให้ palmOne ชนะแบบขาดลอยเลยหล่ะครับ ขนาดพลิกหน้าจอก็แล้ว ความสะดวกยังไม่ได้ลดลงเลยหล่ะครับ นี่แหละครับ palm จริงๆ
เรื่องของจอ...ส่งผลถึงแบตรึป่าวเนี่ย~: อืม มาดูกันครับ ว่าเป็นอย่างไรเทียบกับ t|t3 ตัวๆเลยครับ
สังเกตเห็นได้ว่า t|t3 เป็นเครื่องเดียวจริงๆครับ ที่ปรับให้จอสว่างน้อยที่สุดก็ยังสว่างมากอยู่ดีหน่ะครับ คืออย่าง t|t2 ก็ใช้ autodimmer ช่วยทำให้มันสว่างน้อยลงได้กว่าที่เดิมๆปรับได้หน่ะครับ แต่ t|t3 ทำไม่ได้ ไม่เข้าใจเหมือนกันว่ามันอะไรกันเนี่ย ส่วนรูปก็เห็นได้ว่า ความแตกต่างมันระหว่างสว่างสุดๆ กับน้อยสุดของ th55 ต่างกันมากๆเลยครับ ผมว่า th55 ความสว่างสูงสุงยังสว่างกว่า t3 นิดนึงเลยครับแต่พอต่ำสุด th55 ผมว่าทำได้ดีนะ เพราะมีให้เราเลือกปรับได้เยอะ อย่างน้อยก็ทำให้เราได้มีทางเลือกมากขึ้น เลยถึงต้องมาวกถึงเรื่องแบตเลยครับ ... ตอนนี้ผมใช้ประมาณ 0-20% แล้วแต่ว่าจะอยู่ที่ไหนหน่ะครับ แบต charge ไว้ตั้งแต่วัน 21/4/2003 ตี 1 ใช้งานปกติ วันนี้ 24/4/2003 3 ทุ่มครึ่ง แบตเหลือประมาณ 40% ซึ่งถ้าเป็น t|t3 ก็หมดตั้งแต่วันแรกมั้งครับ เหอ-เหอ ซึ่ง min level ของ th55 อยู่ที่ 10% แต่จะใช้ได้แต่ในเครื่องเลยนะครับ ทั้งอัดเสียง ถ่ายรูป wifi หรือแม้กระทั่ง memory stick ก็หมดกัน ฮ่าๆ ก็ขีดที่จำกัดสูงสุดก็ 20% หล่ะครับ สำหรับอัดเสียงซึ่งแสดงว่าก็น่าจะเหลืออย่างน้อยก็อีกวันนึงหล่ะครับ .. ถึงจะต้อง charge ใหม่ ทำได้ดีจริงๆครับ นับถือเลยจุดนี้ ... ก็คงต้องขอบคุณ Sony Handheld Engine ด้วยมั้งครับ ที่ทำให้เป็นงี้ได้ ผมว่าความเร็วมันก็ไม่น่าต่างกับ t|t2 เท่าไหร่หน่ะครับ แต่ t|t2 เต็มทีก็แค่ 2 วันหน่ะครับ
เรื่องสุดท้ายสำหรับการใช้งานครับ "4 ปุ่มมาตรฐาน" นั่นเอง
ว่ากันด้วยการใช้งานครับ
ปุ่มแรกซ้ายสุด: เป็นปุ่มของ datebook ครับ ทำหน้าที่เหมือน palm ทั่วไปครับ สลับไปเรื่อยๆครับ ในแต่ละ view ของ datebook ครับ อันนี้ไม่ได้มีอะไรพิเศษครับ
ปุ่มแรกกลางซ้าย: อันนี้เป็นปุ่มของ freenote ครับ ของสำคัญทั้งสองของ clie organizer ครับ
ปุ่มแรกกลางขวา: อันนี้เป็นปุ่มในการเปลี่ยนโปรแกรมของ clie organizer ครับ คือแถบสีฟ้าด้านขวาหน่ะครับ ซึ่งการทำงานของมันจะซ้ำซ้อนกับ back + jog ครับ ปุ่มนี่ไร้สาระมากครับ แหะๆ
ปุ่มแรกขวาสุด: ส่วนปุ่มนี้ครับ เป็นปุ่มเดียวทีทำการเปิดเครื่องไม่ได้แฮะ เอ.. แสดงมันต้องมีอะไรดีแน่เลยครับ พอกดแล้ว อุ๊ เป็น popup ครับ
เรียกได้ว่าเป็นตัวช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของ clie organizer อย่างดีทีเดียวครับ เรียกว่าครบเครื่องในตัวเดียว ของที่ลำบากเช่น การเพิ่ม event ใน datebook ก็ง่ายขึ้นเพราะมันครับ อืม... ในตอนแรกไม่คิดว่ามันจะทำได้ทีเลยหล่ะครับ เช่น search ของมันหน่ะครับ อย่างว่า เรามี findhack อยู่แล้ว มันจะดีกว่าได้อย่างไร 55 อย่างนี้ก็คงแค่ find ของ palm มั้งครับ แค่ช่วยให้เลือกโปรแกรมได้สะดวกขึ้น อิอิ แต่.. ไม่ใช่ครับ มันดีได้เท่ากับ findhack เลยครับ คือ search ระดับตัวอักษรด้วยหล่ะครับ แถมเร็วมากซะด้วยหล่ะครับ ก็คงเพราะเค้าจัดการให้หาแค่โปรแกรมไม่กี่โปรแกรมหน่ะครับ อืม เลยเอาเป็นว่ามันก็แค่พอตัวหล่ะครับ ช่วง search นี่ก็มันหาได้แค่ใน clie organizer นี่นา เราใช้ findhack เอาก็ได้ครับ
ในส่วนอื่นเป็นการ new ทุกอันหน่ะครับ เว้นแค่สองอันล่าง แต่การทำงานจะเหมือนกันทั้งหมดครับ คือเราต้อง select text ก่อนหน่ะครับ ก่อนที่จะ new ได้ อันนี้ผมก็ไม่แน่ใจว่าเค้าต้องการอะไรให้มันเร็วขึ้น คงประมาณว่าเข้า net แล้ว select เก็บไว้ง่ายๆมั้งครับ แต่เสียจริงๆครับ ถ้ามันกด new ได้จากทุกทีก็จะเหมือน RakuDA ที่ผมชอบเลยครับ พลาดจริงๆ เลยยังไม่ค่อยประทับใจ popup ตัวนี้เท่าไหร่ครับ แต่ในส่วน new e-mail นี่ ฮ่าๆ ผมว่าทำได้ดีครับ select e-mail เวลา search ด้วยตัวนี้หน่ะครับ (คือลืมบอกไปครับ เวลา search แล้วจะดูข้อมูล มันไม่ต้อง switch โปรแกรมเข้าไปก็ได้ครับ กด detail ดูได้เลยครับ ไม่สวยแต่เร็วมากครับ เพราะ txt ล้วนๆครับ งานนี้) แล้วก็ select e-mail กดมันอีกทีครับ | new e-mail โอ้วโหห ไว้ทันใจจริงๆครับ อันนี้ชอบบครับ เรียกว่า ไอเดียดีครับ อ้อ หรือจะ select ข้อความก็ได้นะครับ แล้วมันจะเก็บเข้าไปใน message ให้เลยหน่ะครับ แต่เราก็ต้องมา e-mail เองครับ อันนี้ยืดหยุ่นได้ดีครับ
ปล. เพิ่งพบครับ ว่าอย่าง new datebook data หน่ะครับ ถ้าเราเขียนวัน หรือเวลา มันก็จะรู้ด้วยนะครับว่าเป็นวันเวลาที่จะสร้าง event 55 ใช้ได้ครับ ลูกเล่นนี้ อืม ได้ข้อดีมากอีกข้อแล้ว หึหึ
อืม จะหมดแล้วครับ อันสุดท้าย ก็คือ select web แล้วก็เข้าไป netfront หน่ะครับ แต่ก็มีข้อเสียตรงที่ต้องมี http:// ด้วยหน่ะครับ ไม่งั้นมันจะไม่เข้าไปให้.. อันนี้ไม่เข้าใจว่าทำไมต้องมีหน่ะครับ ประหลาดดีแท้ครับ 55 เลยทำให้ popup ชุดนี้ เจ๋งสุดก็แค่ new email หน่ะครับ เพราะไม่ต้องเข้าใน address เลย ไวมากๆครับ
อ้อ..ที่ต้องมาดูเรื่องแค่ popup ตัวนี้ก็เพราะว่า ไม่สามารถเรียก popup นี้ทางอื่นเลยเลยหน่ะครับ มีแค่ปุ่มนี้ปุ่มเดียว ซึ่งปุ่มนี้จะเปลี่ยนเป็นตัวอื่นได้ แต่ popup นี้ก็ไม่สามารถเรียกได้หน่ะครับ เลยต้องชั่งใจเลยหล่ะครับ ว่าอยากได้ popup หรือเรียกโปรแกรมแบบทั่วๆไปหน่ะครับ ฮ่าๆ คงต้องลองใช้ดูเอง ว่าเหมาะกับตัวเองรึป่าวหน่ะครับ แต่สำหรับผม คงยังใช้มันต่อไปก่อน อิอิ
เอาไปเลยสำหรับ Sony Clie PEG-TH55 ที่ได้แค่นี้เพราะมันไม่สะดวกในการใช้งานจริงๆ แต่หน้าตามันก็สุดยอดจริงๆหน่ะครับ 555 ^_^